1. เลือกโมเดลที่ชอบ
เริ่มจากหาโมเดลที่ถูกใจเราก่อน โดยการเลือกโมเดลแต่ละครั้งนั้น ควรถามใจตัวเองว่า วัตถุประสงค์หลักที่จะนำไปใช้นั้นคืออะไร เช่น ต้องการใช้สำหรับนอนดูหนังในเวลาว่างก็จะเหมาะกับ Sofa-bed หรือ หากต้องการวางในจุดที่เป็นมุมของห้องโซฟาทรง L-Shape ก็จะตอบโจทย์มากกว่า
2. ปรับรูปแบบที่ใช่
การเลือกโซฟาซักตัวนั้น นอกจากการเลือกโมเดลแล้ว โซฟาแต่ละตัวนั้นยังมีรายละเอียดที่เฉพาะตัว ที่สามารถปรับให้เหมาะกับการใช้งานของคุณได้อีก เช่น ปรับทรง I,L,C หมุนซ้ายหมุนขวา รูปแบบของที่พักแขน เพื่อให้ตรงกับความต้องการและการใช้สอยของคุณนั้นเอง
3. เลือกสีให้โดน
หารูปแบบที่โดนใจแล้ว เราก็มาเลือกสีของโซฟานั้นให้เหมาะกับห้องของคุณเลย โดยเรามีทริคเล็ก ๆ มาฝาก ก็คือ การเลือกสีของโซฟานั้นควรเลือกสีให้อยู่ในโทนเดียวกันกับห้อง แต่ มีระดับเฉดสีที่ต่างจาก สีห้องหรือพื้นห้องซัก 2-3 ระดับเฉดสี เพื่อไม่ให้โซฟาของเรานั้นกลมกลืนไปกับ ห้องจนเกินไป เช่น ห้องโทนสีครีม โซฟาของเรานั้นก็ควร ที่จะมีสีครีม ที่เข้มกว่า หรือ อ่อนกว่า สีของห้อง หรือจะเลือก สีคนละโทนเพื่อตัดสีกันเพื่อให้โซฟาเด่นขึ้น ก็ได้เช่นกัน
4. กำหนดขนาดของตัวโซฟา
ในการเลือกขนาดของโซฟานั้น ควรเลือกให้สมดุลกับขนาดห้อง ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ซึ่งเราสามารถสั่งขนาดของโซฟาได้ว่า ต้องการขนาดไหน เพื่อให้เหมาะกับขนาดของห้องของคุณนั้นเอง ฉะนั้นก่อนจะมาเลือกซื้อโซฟาก็ควรที่จะวัดขนาดของห้อง เพื่อลดการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ
5. เลือกวัสดุหุ้มให้ ตรงใจ
วัสดุหุ้มนั้น มีให้เลือกอย่างหลากหลายแต่ แบ่งไว้ใหญ่ๆก็จะมี หนังวัวแท้,หนังเทียม,และผ้า โดยการเลือกวัสดุควรคำนึงถึงการใช้งาน เช่นวัสดุที่เป็นหนังและหนังเทียมนั้น จะเหมาะกับห้องที่มีอากาศเย็นอยู่ตลอด เพราะถ้าเป็นห้องที่มีอากาศ ร้อนนั้นจะทำให้ รู้สึกเหนียวตัวเวลานั่งได้ และสำหรับ คนแพ้ฝุ่นนั้นก็ควรหลีกเลี่ยงวัสดุที่เป็นผ้า หรือ ถ้าต้องการวัสดุผ้าจริง ๆ ก็ควรที่จะใช้สเปรย์ ป้องกันฝุ่นเพื่อให้ผ้านั้นไม่อมฝุ่นและสามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น นั่นเอง